หลังจากออกแดดอย่างต่อเนื่องจากวันหยุดยาว หรือสัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานานๆ เผชิญกับมลภาวะ นอนดึก ผิวขาดการดูแล ทาครีมก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเห็นผล ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส สัญญาณที่ผิวต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นและมีสุขภาพดีอีกครั้ง ก็ได้เวลาของการดูแลด้วย Skin booster หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะเลือกฉีดตัวใหนถึงจะเหมาะกับสภาพผิวและปัญหาที่กังวลอยู่โดยเฉพาะหากเจอปัญหาผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วนต้องการให้ผิวกระจ่างใสสุขภาพผิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าพูดถึงเมโสเธอราปีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในเกาหลี ก็คงไม่พูดถึงไม่ได้ สำหรับเมโสชาแนล ซึ่งการฉีดชาแนล (Chanel injection) สามารถฉีดได้แล้วที่เมืองไทย โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี และที่สำคัญ เป็นเมโสที่คนไข้ต่างพึงพอใจเมื่อได้เข้ารับบริการ เนื่องจากประสิทธิภาพสูง มีผลข้างเคียงน้อย และราคาไม่ได้สูงจึงคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้
เมโสชาแนลมีส่วนประกอบหลักเช่น สารต้านอนุมูลอิสระ, วิตามิน, ไฮยารูรอน, glutathione, coenzymes, amino acids เป็นต้น
การฉีดชาแนล จะทำให้ชั้นผิวหนังถูกกระตุ้น ตั้งแต่ผิวหนังชั้นบน (epidermis) ชั้นหนังแท้ส่วนบน (Superficial dermis) จนถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกลงไป (deeper dermal layer) โดยผิวหนังชั้นบนสุดเป็นผิวหนังที่ต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรงจึงถูกกระตุ้นให้เสื่อมโทรมลง ( Aging skin ) ได้ง่าย ดังนั้นการใช้ skin booster จึงช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวที่อ่อนแอ หมองคล้ำ ให้กลับมากระจ่างใส เรียบเนียนมีสุขภาพที่ดี
ชั้นหนังแท้ส่วนบน (Superficial dermis) จนถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกลงไป (deeper dermal layer) เมื่อถูก boost ด้วยไฮยารูลอน วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นลงไปในระดับที่ลึกลง จึงช่วยกระตุ้นให้ โกร์ท แฟคเตอร์ ทำงานได้ ดียิ่งขึ้น ในขบวนการเมทาบอลิสมของสเต็มเซลล์ ช่วยปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์จึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ป้องการการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวในขบวนการ Aging
ดังนั้นการฉีดชาแนล จึงเป็นการช่วยเสริมสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้กับผิวที่ต้องการฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ผิว เนื่องจากการเข้าไปมีบทบาทในเมทาบอลิสมที่สำคัญ เช่นการปรับปรุงสภาวะให้เหมาะสมกับการทำงานของไฟโบรบลาสต์ การกระตุ้นโกร์ท แฟคเตอร์ ช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นเป็นต้น อย่างไรก็ดีการฉีดชาแนลไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ที่มัปัญหาเม็ดสีส่วนเกินในระดับลึก เช่น ปัญหาฝ้า หรือผู้ที่ต้องการยกระชับผิว ซึ่งควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวและความต้องการซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
ในผู้ที่เป็นฝ้า และตอบสนองต่อเลเซอร์ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากมีปัญหาฝ้าควบคู่กับปัญหาที่ผิวแห้งมาก และมีผิวบาง พบว่าการฉีด ชาแนลทุก 2 สัปห์ดาควบคู่กับการทำ Picosecond Laser จะช่วยให้ฝ้าจางลงได้เร็วขึ้น โดยเริ่มเห็นผลชัดในครั้งที่ 2 และดีขึ้นเรื่อยๆ โดยการตอบสนองต่อการรักษามีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล*
เนื่องจากชาแนลมีส่วนผสมของไฮยารูลอน วิตามิน ดังนั้นสารต้านอนุมูลอิสระ กลูต้าไธโอน ฯลฯ จึงช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียให้มีความชุ่มชื้นขึ้น นุ่มลื่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ อย่างไรก็ดี การฉีดชาแนลไม่ใช่วิธีการรักษาโดยตรงสำหรับผู้ที่มีปัญหาเม็ดสีที่ลึกฝังแน่น เช่น ฝ้า ซึ่งควรรักษาด้วยเลเซอร์ที่จำเพาะเจาะจงกับปัญหาเม็ดสี จะตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากกว่า การฉีดชาแนล ควบคู่กับการทำเลเซอร์ย่อมส่งผลที่ดีกว่า เนื่องจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน เนื่องจากเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นส่งผลให้การขจัดเม็ดสีเมลานินออกหลังยิงเลเซอร์ดียิ่งขึ้นและยังเป็นการปลอบประโลมผิว กระตุ้นโกร์ท แฟกเตอร์หลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ที่จำเพาะต่อเม็ดสี โดยเฉพาะเมื่อรักษาควบคู่ Picosecond Laser ซึ่งเป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่จำเพาะเจาะจงต่อเม็ดสี โดยปล่อยพลังงานในระดับ picosecond หรือ หนึ่งต่อล้านล้านวินาทีจึงทำให้เกิดคลื่นกระแทกใต้ผิว (Photomechanical) แทนที่อุณหภูมิที่สูงขึ้น (Photothermal) เกิดการแตกตัวของเมลานินอย่างละเอียด และขจัดออกอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันการเกิดคลื่นกระแทกใต้ผิว(Photomechanical) และการปล่อยระดับพลังงานได้ถึงระดับชั้นหนังแท้ จึงทำให้มีการนำ Picosecond Laser มาใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อรักษาหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง ด้วยประสิทธิภาพในการขจัดเม็ดสีและกระตุ้นคอลลาเจน โดยมีข้อดีคือ downtime สั้นคือแทบไม่ต้องพักหน้า อีกทั้งเป็นเลเซอร์ระบบใหม่ที่พัฒนาจนเหนือกว่าเลเซอร์ดังเดิมจึงได้รับความนิยมอย่างสูง และเป็นโปรแกรมขายดีของบีเอซี คลินิก ซึ่งหากคนไข้สนใจเข้ารับบริการ ควรนัดหมายล่วงหน้าเพื่อรับคำแนะนำและวางแผนก่อนการรักษาก่อนเสมอ
สำหรับข้อควรระวังต้องบอกแบบนี้ค่ะ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาเพียงอย่างเดียว ว่าถูกหรือแพง เพราะ skin booster ที่ให้ผลดีกับคนหนึ่งอาจจะไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่ง ถึง skin booster นั้นมีจะหลายคนที่มีประสบการณ์เคยฉีด แล้วยืนยันว่าได้ผลดีมีประสิทธิภาพสูงก็ตาม
ก็เหมือนกับคุณอาจจะตัดสินใจซื้อครีมที่มีราคาสูง ที่ก็มีแต่คนยืนยันว่าเห็นผลดีมากเช่น คุณได้ซื้อ La Mer มาใช้ ซึ่งก็ดีมากสำหรับคนอื่น แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณหากคุณแพ้ส่วนผสมบางอย่างในผลิตภัณฑ์นั้น ต่อให้แพงแค่ใหน ดีแค่ใหน คุณก็ใช้ต่อไม่ได้อยู่ดี
เป็นต้น
การฉีด Skin booster ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมที่ดีเยี่ยมทุกตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ย่อมมีความแตกต่างกันตามความรุนแรงของปัญหา และสภาพผิวของแต่ละบุคคล คุณอาจจะคิดว่าแล้วทำไมไม่ลองเพื่อให้รู้ไปเลยว่ามันใช่สำหรับคุณหรือไม่
ซึ่งเราก็ไม่แนะนำให้คุณทำแบบนั้น แต่ขอให้คุณรับคำแนะนำจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ย่อมจะดีกว่า ถึงเราจะไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้แบบ 100% แต่การรับคำแนะนำที่ถูกต้อง ย่อมจะทำให้สามารถวางแผนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดตามที่คาดหวังได้
สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก อย่างไรก็ดีเพื่อผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แนะนำที่ 3 ครั้ง เดือนละ 1 ครั้ง และสามารถ maintain ผลลัพธ์โดยกลับมาฉีดทุก 3-6 ดือน จนครบ 5 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ผิวชุ่มชื้นขึ้น ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ครั้งที่ 2 ผิวมีความยืดหยุ่นกระชับ รูขุมขนดูเล็กลง ผิวดูใสเต่งตึงขึ้นจากการสร้างคอลลาเจนใหม่
ครั้งที่ 3 สีผิวมีความสม่ำเสมอ ดูอ่อนเยาว์จากการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
ครั้งที่ 4 และ 5 เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานควรฉีดทุก 3 เดือน
*** ผลลัพธ์อาจแตกต่างในแต่ละบุคคลเมโสชาแนลถูกออกแบบมาเพื่อดูแลให้ผิวมีสุขภาพที่ดี โดยมีส่วนประกอบที่หลากหลายและให้ผลที่แตกต่างกันโดยมีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยให้ผิวหนังชั้นบนหนาขึ้นประมาณ 25% เมื่อฉีดครบ 3 ครั้ง และผลยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอีก 4-6 เดือน ซึ่งสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เพื่อเป็นการ maintain ผลลัพธ์ให้ยาวนาน โดยผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดของการฉีดเมโสชาแนลคือ การปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งผิวที่แห้งแสดงถึงผิวที่เสื่อมโทรมอ่อนแอ อาจมีสาเหตุจากการสัมผัสอนุมูลอิสระเป็นระยะเวลานาน แสงแดด ความร้อน อายุที่มากขึ้น การบูทผิวด้วยไฮยารูลอน และสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย จากกลไกของเมโสชาแนล จะช่วยชะล้างสารพิษ ทำความสะอาดผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากความชุ่มชื่นของผิวที่ดีขึ้น และส่งผลต่อให้ผิวรับสารอาหารต่างๆเพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากพบว่าปัญหาผิวของคุณมีสาเหตุมากจากผิวแห้ง อีกทั้งคุณมีริ้วรอย มีผิวบาง การฉีดชาแนลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
เมื่อเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติถูกทำลาย จนเกิดการอักเสบ จะส่งผลใหม่เมลาโนไซด์ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีมากยิ่งขึ้น โดยทฤษฎีที่ใช้อธิบายถึงการเกิด Skin aging คือการอักเสบของผิวอย่างต่อเนื่อง การที่โครงสร้างผิวถูกกระทบกระเทือน และทำให้เซลล์ผิวไม่สามารถทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อปราการผิวตามธรรมชาติดีขึ้น ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น การได้รับสารอาหารที่ดี ย่อมจะสามารถบรรเทาการอักเสบ และส่งผลให้เซลล์ผิวแข็งแรง กระจ่างใส สุขภาพผิวดีจนรู้สึกได้
หากคุณมีปัญหาผิวหน้ามัน จากการผลิตไขมัน (sebum) จากต่อมไขมันที่ผิวหนังมากเกินไป ซึ่งคุณควรสังเกตุว่าปัญหาความมันที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นทั่วใบหน้า หรือเป็นเฉพาะบริเวณ T-Zone ส่วนบริเวณอื่นมีผิวแห้ง เช่นผิวมันเฉพาะ T-Zone แต่หน้าแก้มทั้งสองข้างมีผิวแห้ง
คุณก็สามารถฉีดเมโสชาแนลได้ แต่หากความมันเกิดขึ้นทั่วใบหน้าคุณควรพิจารณาทางเลือกอื่นเช่น รีจูรัน (Rejuran)
หากคุณเป็นคนที่มีสิวอุดตันได้ง่าย เมื่อใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซึ่งแสดงว่าคุณเป็นคนที่มีผิวมัน การฉีดชาแนลอาจทำให้ปัญหาสิวเป็นหนักกว่าเดิม เนื่องจากชาแนลมีส่วนผสมที่หลากหลาย
การฉีดรีจูรัน (Rejuran healer) จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในผู้ที่เป็นสิวได้ง่าย เนื่องจากกลไกการทำงานของรีจูรันจะช่วยทำให้ผิวมีความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวและช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า
ซึ่งคนไข้หลายๆคนเมื่อสามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดีแล้ว ก็สามารถควบคุมปัญหาสิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้ส่วนประกอบหลักของรีจูรันยังช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซม ปลอบประโลมปัญหาหลุมสิวที่เกิดขึ้นได้จากคนไข้ที่มีสิวอักเสบอีกด้วย
หากคุณเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย เช่นเวลาคุณจะเปลี่ยนครีมก็พบว่ามีผดผื่นขึ้น คุณอาจจะมี ผิวแห้ง แดงมีผื่นง่าย ซึ่งในกรณี้นี้คุณเหมาะกับ การฉีดรีจูรัน (Rejuran healer) มากกว่า เนื่องจากการที่คุณมีผิวแพ้ง่าย แสดงว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณมีโอกาสตอบสนองต่อสารที่ฉีดเข้าสู่ใบหน้าได้มากกว่าคนทั่วไป และเนื่องจากส่วนประกอบของชาแนลมีความหลากหลาย ไม่เหมือนรีจูรันซึ่งมีส่วนประกอบของ DNA polynucleotides เพียงอย่างเดียว ซึ่งโอกาสในการแพ้จึงพบได้น้อย ดังนั้นหากคุณมีผิวแพ้ง่าย จึงควรพิจารณาทางเลือกอื่นย่อมจะดีกว่า
ผลการรักษาในแต่ละครั้ง อาจให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน เช่นบางครั้งเห็นผลชัดเจนมาก บางครั้งเห็นผลแต่ไม่ชัด ซึ่งที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า สภาพผิวมีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างในแต่ละครั้ง ดังนั้นผลที่ได้อาจมีความแตกต่างกัน ถ้าผิวคุณดีอยู่แล้ว
คุณก็อาจจะรู้สึกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก แต่ในขณะเดียวกันถ้าผิวคุณแห้งโทรม ผลที่คุณได้รับก็จะเป็นที่พึงพอใจตามที่คุณได้คาดหวังไว้
หลังจากฉีด 3 วัน จะรู้สึกได้ถึงผิวที่นุ่มลื่นขึ้น และเมื่อคุณแต่งหน้าคุณจะเริ่มสงสัยว่าทำไมแค่แต่งบางๆ ก็ดูสวยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนั้นเป็นเพราะผิวของคุณกระจ่างใสขึ้นและดูสะอาดขึ้น แต่หากว่าคุณเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ชัดเจนนัก
ก็ไม่ต้องกังวลใจไป ก็เปรียบเหมือนการยกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ ที่ผลจะชัดเจนสุงสุดเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน ดังนั้นถ้าผลไม่ชัดเจนในทันที ขอให้คุณตระหนักว่ากลไกของขบวนการเสื่อมสภาพ หรือ Skin Aging ของผิวหนังของคุณได้รับการดูแลให้ช้าลงแล้วด้วย
Anti-aging Skin booster หรือ Chanel injection คุณจะค่อยๆสังเกตุได้ถึงผิวที่ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
***เขียนและเรียบเรียงโดย BAC Clinic ไม่อนุญาติให้ copy ดัดแปลงหรือนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ***
*ผลลัพธ์แตกต่างในแต่ละบุคคล
***เขียนและเรียบเรียงโดย BAC Clinic ไม่อนุญาติให้ copy ดัดแปลงหรือนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ***